20 พฤศจิกายน 2566 13:18 น
สยามออนไลน์
ความบันเทิง
เปิดใจครั้งแรก! นักร้องสาว “แจมเนโกะจัมพ์ หรือ แจม ชรัฐา” พูดถึงการตัดสินใจแย่ๆ ในชีวิต หลังจากลาออกจากวงการ เธอมุ่งความสนใจไปที่ชีวิตแต่งงานแต่ล้มเหลวในความรัก เธอหลั่งน้ำตาเนื่องจากภาวะซึมเศร้า และเปิดเผยว่าเธอคิดสั้น ๆ ว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ในที่สุดก็มีจุดเปลี่ยนและเรายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น
นี่เป็นโอกาสแรกของแจมที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรื่องซึมเศร้า เพราะเมื่อก่อนไม่กล้าบอกใครใช่ไหม?
Jam Neko Jump : นี่คือตอนที่เราลง เราจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก แล้วเราจะรู้ว่าฉันไม่ปกติ ฉันต้องไปพบแพทย์ ฉันซึมเศร้าหรืออะไร? คืออาการก็จะมาเรื่อยๆ มันค่อยๆ ปรากฏขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพ นิสัย หรือวิธีที่เราเปลี่ยนพฤติกรรม มันค่อยๆ เปลี่ยนไปโดยที่เราไม่รู้ตัว รู้สึกเหมือนเจอคนไม่อยากเจอใครเลย ฉันไม่อยากรับงานนี้ ฉันไม่อยากเจอแฟนๆ ขนาดเพื่อนก็ไม่ได้คุยกับใครก็เหมือนเราอยู่คนเดียว ตื่นเช้า นอนบนเตียง ไม่ทำอะไรเลย
นี่คือจุดเริ่มต้น แต่เราไม่รู้ การเติบโตมาแบบนี้ฉันมีประสบการณ์หลายอย่างในชีวิต โดยปกติแล้วเราสามารถจัดการกับสาเหตุต่างๆ ได้ แต่ในสมัยของเราไม่มีเหตุผลเลย ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ จะรู้สึกแย่ ไร้ค่า และเหมือนอยากตาย (ตัวสั่น ร้องไห้) ซึ่งเป็นความคิดที่แย่มาก ครอบครัวผิดหวังเพราะพวกเขาลุกจากเตียงไปทำงานไม่ได้ ฉันไม่รับงานเลย อยู่บ้านแล้วทุกคนก็พยายามจะมาหาเรา แต่เรากลับผลักเขาออกไป แล้วฉันก็รู้สึกเสียใจกับตัวเองเพราะครอบครัวช่วยเหลือฉันมาก ฉันหมายถึงฉันเป็นคนธรรมดา จนมาเป็นดาราก่อนจะมาถึงจุดนี้แต่เรากลับมีความคิดแย่ๆ ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้วยอมสละทุกสิ่งในชีวิต
ชีวิตในตอนนั้นเป็นอย่างไร?
Jam Neko Jump: ชีวิตฉันมืดมนในตอนนั้น แม้ว่ารอบตัวเราจะมีคนมากมาย แต่เรารู้สึกเหมือนเราอยู่คนเดียว เรารู้สึกว่าเราเป็นภาระของทุกคน ฉันอยากจะหายไป ฉันอยากจะหายไปจากโลกนี้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขมากขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่จะเป็นความคิด ฉันหยุดคิดแบบนี้ไม่ได้เลย
เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจากไหน? จะจัดการกับมันอย่างไร? นั่งอยู่หน้าหูตี้ตลอดเวลาได้ไหม?
Jam Neko Jump: คือว่าตอนเราอยู่ Neko Jump มาตรฐานการครองชีพเราสูงกว่าตอนนี้ใช่ไหมครับ? หลังจากนั้นเรารู้สึกเหมือนเราอยากจะเริ่มต้นบทใหม่ในชีวิตของเรา ฉันคิดว่าการทำงานในอุตสาหกรรมนี้ก็เพียงพอแล้ว เส้นทางใหม่ของเราคือการเสียสละตัวเองและกลายเป็นภรรยาของใครบางคน ฉันอยากจะมอบทุกอย่างของฉันให้กับสถานที่แห่งนั้น แล้วพอไม่เกิดขึ้นก็รู้สึกเหมือนเลือกทางผิด ฉันเดาว่าพ่อแม่ของเรามักจะมีแม่ผู้เสียสละที่เสียสละงานมาเลี้ยงดูเราเต็มเวลามาโดยตลอดจนถึงตอนนี้ แต่เราเลือกที่จะออกแล้วคุณก็คิดว่ามันดีขึ้นแต่มันไม่เกิดขึ้นเลยผมคิดว่าเราตัดสินใจผิด ปล่อยให้ทุกอย่างพังทลายลง อันที่จริง นี่อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่วันสิ้นโลก
แต่ในสภาวะหดหู่ของฉัน สิ่งต่างๆ มันใหญ่เกินกว่าจะคิดได้ในเวลานั้น กล่าวคือถ้าคนมีอารมณ์ปกติก็จะสบาย ทุกคนจะมีปัญหาในชีวิต เราสามารถผ่านเรื่องนี้ไปได้ เครียดนิดหน่อย ร้องไห้นิดหน่อย ทุกอย่างจะผ่านไป เราสามารถออกไปจากที่นั่นได้ แต่เมื่อเกิดปัญหาซึมเศร้าสารเคมีในสมองก็ผิดปกติ มันทำให้เราติดอยู่ในวงจรที่เราหนีไม่พ้น เมื่อฉันได้รับมันฉันก็ไม่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติกับฉัน ฉันคิดว่าฉันสามารถจัดการมันเองได้ ปล่อยให้อาการแย่ลงเรื่อยๆ และเมื่อเรารู้ เราก็ไม่กล้าบอกใคร ฉันกลัวที่จะทำอะไรเพราะฉันอายมาก
จุดเปลี่ยนคือเมื่อไหร่?
Jam Neko Jump : นั่นคือวันที่เราบอกว่าเราอยากจะหายตัวไป (เสียงสั่น) ฉันนอนลงแล้วสงสัยว่าจะไม่ดีกว่าไหมถ้าเราไม่อยู่บ้าน (ร้องไห้) หลังจากที่เราคิดแบบนี้ เรานอนบนเตียงและเก็บโทรศัพท์ไว้ จากนั้นก็มีการแจ้งเตือนทางโทรศัพท์ในแชทของครอบครัวว่า “กินข้าวไหม ได้ไหม ฉันรักเธอ ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้” ฉันไม่ต้องการสิ่งนี้อีกต่อไป เราเบื่อที่ต้องเป็นแบบนี้ตลอด เราต้องการที่จะรักษา เมื่อถึงจุดนี้เราจึงตัดสินใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันยอมรับสถานการณ์อย่างที่เคยเป็น แต่ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่ามันเป็นภาวะซึมเศร้า แต่ฉันรู้ว่าใจของฉันไม่ถูกต้อง ฉันจึงตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ ฉันใช้เวลาประมาณสองปีในการรักษาก่อนที่ฉันจะรู้สึกเหมือนหายไป ฉันไม่รู้สึกแบบนั้นอีกต่อไป
สามารถติดตาม WOODY INTERVIEW ได้ที่ Facebook : Woody , Youtube : Woody