21 ธันวาคม 2566 16:31 น
สยามออนไลน์
ความบันเทิง
เผยความลับของเน็ตไอดอลชื่อดัง “เนสตี้ สปิตซี่” พร้อมเผยชีวิตที่ต้องดิ้นรนในวงการตั้งแต่ยังเด็ก จนทนไม่ไหวกับคอมเมนต์กลั่นแกล้งในโซเชียล เสียใจ เพราะคำว่า ไม่สวย ยอมรับว่าตัวเองเป็นเด็กแก่แดด ฉันร้องไห้ตอนทำศัลยกรรมตอนอายุ 16!เผยความเสียใจที่ถูกเชิญให้ออกจากโรงเรียนในรายการ WOODY FM ม.4
คุณเข้าวงการตอนอายุเท่าไหร่?
เนสตี้: ตอนนั้นฉันอายุ 10 ขวบ ตอนนี้ฉันอายุ 18 แล้ว
คุณยังจำสิ่งที่คุณทำในวันแรกในวงการนี้ได้หรือไม่?
เนสตี้: ฉันจำวันแรกได้ ตั้งแต่นั่งดู Facebook ถ่ายทอดสด เป็นคนชอบแสดงออก ชอบเต้น ร้องเพลง แต่งหน้า จู่ๆ ก็มีคนมาดูถ่ายทอดสดถึง 7 คน หลังจากผ่านไป 10 นาที เพิ่มเป็น 20-30 คนขึ้นไป 100 คน จนเพิ่มเป็น 1,000 และ 10,000 คน ทุกคนคงชอบฉันจากมุมมองของแบบว่า ว้าว! เด็กคนนี้สนุกกับการเต้นและร้องเพลงมาก และฉันก็เหมือนคนบ้า เมื่อมีคนดูและสนับสนุนให้ฉันทำอะไรก็ตามที่ฉันอยากทำมากขึ้น ฉันก็จะทำสิ่งนั้น
ความสนุกมาจากไหน? เราเติบโตเป็นตัวตนของเราที่ไม่เหมือนใคร รู้สึกกดดัน? คุณเติบโตขึ้นมาได้อย่างไร?
เนสตี้: ฉันเติบโตขึ้นมาเหมือนเด็ก ที่บ้านเราสนับสนุนทุกอย่าง ไม่เคยมีการห้ามกลุ่ม LGBTQ+ ในบ้าน พ่อแม่ของฉันเข้าใจ ฉันไม่เคยรู้สึกเหมือนถูกเลี้ยงดูมาตอนเป็นเด็กผู้ชาย ที่บ้านฉันเลี้ยงคุณเป็นผู้หญิง
ในสังคมเราตรงนั้น ทุกคนยอมรับทุกอย่างหรือเปล่า?
เนสตี้: แต่จะมีอีกสังคมหนึ่ง เราต้องไปโรงเรียนและแน่นอนว่าบางครั้งเราโดนเพื่อนผู้ชายล้อเลียนและรังแก แต่น่าเสียดายที่ผมเป็นคนที่ทะเลาะกับคน (หัวเราะ) ดังนั้นเราจึงตีเราด้วยไม้กวาด ทำไมคุณถึงเป็นกะเทย? แล้วเกิดอะไรขึ้น? นั่นเป็นเพราะวิธีที่เราถูกเลี้ยงดูมา เราล่ะ เราผิดหรือเปล่า? เพราะที่บ้านเราไม่เคยบอกว่าเป็นความผิดเราที่เป็นแบบนี้
ไม่สำคัญว่าพ่อแม่จะบอกว่าลูกของตนถูกต้องหรือไม่ เราจะคิดว่าเราไม่ผิด แต่ถ้าพ่อแม่ไม่พูดก็ไม่ยอมรับ เด็กอาจจะอารมณ์เสียมากสงสัยว่าคำสาปสุดท้ายที่เขาพูดนั้นจริงหรือเท็จ?
เนสตี้: ใช่แล้ว สำหรับเด็กคนไหนก็ตาม ตอนนั้นผมแยกไม่ออกว่าอันไหนถูกอันไหนผิด
คุณโชคดีพอที่จะมีพ่อแม่ ครอบครัว และคนรอบข้างที่เปิดใจกว้างหรือไม่?
เนสตี้: ใช่แล้ว ตอนที่ฉันอยู่มัธยมต้น ฉันเป็นแค่เด็กผู้ชาย เพราะเขายังสวมชุดนักเรียนอยู่ ฉันยังคงตัดผมของฉัน จากนั้นฉันก็ย้ายไปเรียนที่อื่น ถึงตอนนั้นเราก็มีคนรู้จักมากพอแล้ว ฉันจึงต้องทำงานและเรียนหนักมาก ฉันไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ โดยปกติแล้วจะต้องบินไปกลับแบบนี้ทุกสัปดาห์ในจังหวัดพังงา แล้วกลับไปเรียนต่อ พอไปเรียน โรงเรียนอื่นก็ขออนุญาตไว้ผม งานต้องดู. แล้วฉันก็ขอให้เขาทำหน้าอก จากนั้นฉันก็ถูกไล่ออก อย่าเรียกว่าโดนไล่ออกนะ เรียกว่าเป็นการเชิญชวนดีกว่า เขาบอกว่าเขาไปเยี่ยมชมโรงเรียนใด ๆ บ้างไหม? เพราะถ้ายังอยากอยู่โรงเรียนนี้ถ้ายังมีคำว่าท่านอยู่ คุณต้องเป็นเด็กผู้ชาย อีกปมในใจของฉัน เพราะผมถูกไล่ออกจากโรงเรียนที่ม.4 (เสียงสั่น) แล้วผมก็ต้องไปเรียนที่ม.5 ตอนนี้กลับมาเรียนที่เดิมแล้ว ที่นี่คือโรงเรียนสตรีพังงา ฉันสวมชุดนักเรียนหญิง ผมยาว และเป็นผู้หญิง ขอขอบคุณผู้ใหญ่ที่เข้าใจทุกคนในโรงเรียน ฉันหวังว่าโรงเรียนอื่นๆ จะทำสิ่งนี้ โรงเรียนเปิดกว้างสำหรับเพศทางเลือก
อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิต?
เนสตี้: สื่อสังคม. โซเชียลมีเดียให้ฉันมากมาย มันสอนฉันทุกอย่าง มันสอนฉันทุกอย่าง โซเชียลมีเดียให้โอกาสฉัน แต่เรายังทำให้โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลมากขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย ตอนเด็กๆ ก็เป็นอย่างนี้ กรองความเห็นไม่ได้ เรารับความคิดเห็นเหล่านี้ทั้งหมดแล้วปล่อยไว้อย่างนั้นหรือไม่ ดังนั้นฉันจึงคำนึงถึงทุกความคิดเห็นเสมอ ฉันเป็นคนอ่อนไหวมาก แต่พยายามเข้มแข็งอยู่เสมอ แต่ลึกๆแล้วฉันอ่อนแอในทุกสิ่ง
คุณเคยหยิบรีวิวมาอ่านแล้วร้องไห้ตามลำพังไหม?
เนสตี้: นี่เรียกว่ามากกว่าการร้องเพลง เกิดมาไม่สวยผิดไหม? บางทีคอก็สั้นมาก(ร้องไห้) ก็ปล่อยไปคิดดู ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าเหรียญมีสองด้านและมีสองด้านสำหรับคน มีคนชอบเราแน่นอน และมีคนไม่ชอบเราแน่นอน ตอนนี้ฉันสามารถกรองความคิดเห็นที่เราควรวิพากษ์วิจารณ์ออกเพื่อสร้างความคิดเห็นที่เราพร้อมจะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ จากนั้นเราจะต้องกรองความคิดเห็นเพื่อดูว่าความคิดเห็นใดที่น่าสนใจ ในช่วงเวลาสั้นๆ คนเหล่านี้แสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียอาจไม่คิดอะไรเลย แต่เราเป็นคนที่ได้รับข้อความและหยิบทุกอย่างขึ้นมา และมันก็เป็นช่วงโควิดด้วย ว้าว! พี่วู้ดดี้ คุณเชื่อไหมว่าเขาไม่สามารถไปไหนก็ได้ในห้องสี่เหลี่ยม? ไม่เจอใคร ไม่เจอใครเลย มีพลังมากยิ่งขึ้น
คอมเมนต์ไหนเจ็บใจที่สุด?
เนสตี้: ฉันไม่น่ารัก. ทุกคนอาจคิดว่าฉันเป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง และพวกเขาคิดว่าฉันต้องเป็นคนตลกตลอดเวลา ร่าเริงอยู่เสมอ แต่จริงๆ แล้วอยากได้มุมที่น่ารักและสวยงาม และคนอื่น ๆ?
ทำไมคำว่าไม่สวยถึงทำให้รู้สึกแย่?
เนสตี้: อาจจะเป็นความมั่นใจ? คนกล้าออกจากบ้านเพราะมั่นใจในตัวเอง
ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องดีที่เกิดขึ้นกับคุณ เพราะมันสอนคุณมากมาย หากไม่มีความคิดเห็นเช่นนั้น เราก็จะฉลาดไม่ใช่หรือ?
เนสตี้: ใช่ มันทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น ในเวลานั้นมีหลายสิ่งใหม่สำหรับฉันมาก อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันเริ่มต้นตั้งแต่อายุ 10-11 ขวบที่ทำงานอยู่แล้วก็คือเราคิดว่าความยากจนเป็นสิ่งที่แย่มาก นี่น่ากลัวมาก เพราะไม่เคยมีคนแบบนี้มาก่อนในครอบครัวของฉัน ฉันมีการสนับสนุน แต่ครอบครัวไม่มีเงินสนับสนุนเครื่องสำอาง นี่คือสิ่งที่พ่อแม่เก็บเงินไว้ซื้อเองตอนเรียนหนังสือและต้องตัดยาง บาดฝ่ามือทุกที่
ในที่สุดคุณจะสามารถหาเงินเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว ซื้อรถยนต์ และซื้อบ้านภายในหนึ่งปีได้หรือไม่?
เนสตี้: ใช่ครับ แม่เก็บเงินให้ผม และผมก็ภูมิใจมาก ผมมีห้องเป็นของตัวเอง ตอนอายุ 12-13 ปี
ตอนนี้ฉันมีบ้านและรถ ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เราต้องการก็คือเงิน เก็บไว้เพื่อความสบายใจหรือป่าวครับ? อยากรู้จากมุมมองของคนอายุ 18 ปีไหม?
เนสตี้: เก็บไว้เพื่อตัวเองในอนาคต เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ถ้าเพียงแต่ฉันยังมีแรงทำงานตอนนี้ มีทุนเต็มก็พร้อมจะทำอะไรครับ ถ้าเขาจ้างทุกคน (หัวเราะ)
คุณมีสติปัญญามากมาย เป็นเพราะคุณเจอเรื่องราวต่างๆ? คุณมีความเป็นผู้ใหญ่ทางจิตใจหรือไม่? มันมาจากไหน?
เนสตี้: ฉันติดต่อกับสังคมทุกวัน และงานของฉันก็แตกต่างออกไปทุกวัน มันเป็นเรื่องของการปรับตัวและการวางตำแหน่ง และฉันก็รู้สึกประทับใจกับคำว่า แก่แดด และฉันยอมรับว่า ฉันยอมรับคำนั้น เพราะฉันแก่แดดจริงๆ ใครๆ ก็บอกว่าฉันตัวใหญ่ขนาดนั้น แต่นี่คือไอเดียของฉัน! อาจเป็นเพราะการเข้าสังคม พบปะผู้คนมากมาย ทำความรู้จักกับผู้คนรอบตัวเรา คนคิดบวก และเรามีครอบครัวที่ยอดเยี่ยม คุณมีเพื่อนรอบตัวคุณที่พร้อมจะสนับสนุนคุณเสมอ มีคนคิดลบก็ต้องมีบ้าง สังคมปกติเลือกที่จะอยู่และเลือกมากขึ้น
ติดตาม Woody FM ได้ทาง Podcast Channel: WOODY FM, Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.
คลิกชมตอนก่อนหน้านี้: