เผยรายละเอียดสลากอิเล็กทรอนิกส์ L6 วิธีการซื้อหลังกรมสลากเริ่มจำหน่ายลอตเตอรี่ตัวแรกในวันที่ 17 กันยายน 2566 สูงถึง 21 ล้านใบ พร้อมเพิ่มเป็น 30 ล้านภายในสิ้นปีนี้เมื่อเลข 2 หลัก และสลาก 3 หลักกำลังจะออกจำหน่ายในปีหน้า
เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (กรมสลาก) ได้ประกาศเตรียมการเริ่มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือ “ลอตเตอรี่ดิจิตอล L6” ระยะที่ 1 ในวันที่ 17 กันยายน 2565 มีมูลค่า 21 ล้านตั๋ว การพิจารณารับรางวัลคือวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหาร และคณะรัฐมนตรี (คณะรัฐมนตรี) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการอนุมัติ
ทางสำหรับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2566 เป็นต้นไป สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือ สลาก L6 มีวางจำหน่าย 2 ประเภท คือ “สลากกระดาษ” และ “สลากอิเล็กทรอนิกส์ 21 ล้านใบ”
เมื่อรวมกับสลากเดิมหรือปกติ 80 ล้านใบ จะมีการขายสลากหมายเลข 6 ทั้งหมด
ตั๋ว L6 ชุดละ 30 ล้านใบ ราคาใบละ 60 บาท จะมีรางวัลที่หนึ่ง หากใครถูกรางวัลที่ 1 ของแต่ละชุดจะได้รับรางวัลสูงสุด 180 ล้านบาท เงินรางวัลที่ผู้ชนะจะได้รับ เงินรางวัลสามารถรับได้ 3 วิธี
- การโอนเงินผ่านแอป เป่าถัง สามารถโอนไปยังธนาคารต่างๆ มากมาย
- โอนผ่านธนาคารกรุงไทย
- นำบัตรประจำตัวประชาชนไปรับเงินที่สำนักงานสลากกินแบ่ง
ในขณะเดียวกันผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล L6 สามารถรับรางวัลได้ทุกรางวัล รวมถึงรางวัลที่ 1 สามารถรับได้ทันทีหรือสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 2 ปีจึงจะรับรางวัลได้ เช่นเดียวกับตั๋วลอตเตอรี
แบบฟอร์มลอตเตอรีดิจิทัล L6 ไม่มีจำหน่ายในรูปแบบตั๋ว
ส่วนสลาก L6 ตั๋วประเภทนี้จะยังไม่มีจำหน่ายเป็นตั๋วจนถึงขณะนี้ เหตุผลคือขายผ่านระบบดิจิทัล ไม่เหมือนตอนนี้ที่แม้แต่การซื้อผ่านแอปเป่าถัง แต่ก็มีลอตเตอรี่ด้วย “เพราะมันเกี่ยวข้องกับการสแกนสลากเข้าระบบ”
ในขณะเดียวกันประชาชนก็สามารถซื้อสินค้าผ่านแอป เป่าถัง ได้ตามปกติ มีเพียงรูปแบบลอตเตอรีเท่านั้นที่ได้รับการควบคุมอย่างชัดเจนเป็นตั๋ว L6 แบบดิจิทัล ในระหว่างการออกรางวัลในวันที่ 16 กันยายน สำนักงานสลากฯ จะนำรูปแบบนี้ออกสู่สาธารณะอีกครั้ง
นอกจากนี้ Unified Lottery Commission จะต้องมีตั๋ว L6 ทั้งแบบจริงและดิจิทัลภายในสิ้นปี 2566 รายได้รวมไม่เกิน 110 ล้านบาท
โดยแยกออกเป็น
- L6, 80 ล้านการ์ด
- การ์ดดิจิทัลไม่เกิน 30 ล้านใบ ขึ้นอยู่กับความต้องการ จะพิจารณาว่าสามารถเพิ่มเป็น 30 ล้านการ์ดได้หรือไม่ โดยแต่ละชุดเพิ่มเติมไม่เกิน 1-2 ล้านใบ ขึ้นอยู่กับความต้องการ จำนวนผู้ซื้อแต่สูงสุด แต่ละชุดต้องเพิ่มตั๋วได้ไม่เกิน 2 ล้านใบ
ในขณะเดียวกันลอตเตอรี่ยังจำกัดจำนวนเพียง 80 ล้านใบต่องวดเท่านั้น!
ในการนี้คณะกรรมการสลากกินแบ่งพบว่าสลากดิจิทัลนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาสลากกินแบ่งที่แพงเกินไปได้ และผู้คนอาจจะตอบสนองต่อสลากดิจิทัลได้ดีกว่า เนื่องจากตอนนี้สามารถขายหมดได้สองวันก่อนการออกรางวัล แสดงว่ายังมีความต้องการสลากดิจิทัลอยู่
ผู้ขายลอตเตอรี L6 แบบดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านรายนี้จะเปิดประตูสู่ผู้ขายที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้ 70,000 รายที่ได้รับเลือกในรอบแรกของการสมัคร โดยเหลืออีก 17,000 ราย ผู้ที่ต้องการขายสลากดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม
ล่าสุดมีผู้คนมากกว่า 15,000 คนต้องการขายสลากลอตเตอรี L6 และองค์กรมากกว่า 30 แห่งแสดงความปรารถนา ข้อมูลนี้จะได้รับการประมวลผลและตรวจสอบในปีหน้าเพื่อจัดสรรให้กับกลุ่มเปราะบางเพื่อประกอบอาชีพต่อไป
ส่วนสลากกินแบ่งรัฐบาล เลขสามหลัก หรือ N3 มีสิทธิ์ถูกรางวัล 4 ตัว คือ เลขเรียงสามตัว เลขสลับสามตัว หรือเลขคู่สามตัว รางวัลตรงสองรางวัลและรางวัลพิเศษหรือแจ็คพอตหนึ่งรางวัล อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดปลีกย่อย คาดว่าภายในเดือนมีนาคม 2567 รายละเอียดราคาจะสรุปได้ การจัดจำหน่ายและอื่นๆ อาจจำหน่ายก่อนเดือนกันยายน 2024 ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี
![ลงทะเบียนขายสลาก N3](https://thethaiger.com/th/wp-content/uploads/2023/08/กองสลาก-สลากดิจิทัล-หวย-3-ตัว.jpg)