วันนี้ผมอยากจะขอให้ผู้ชมเปิดเผยรายได้ของ Big 4 หรือ 4 บริษัทแผ่นเสียงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีในปีที่ผ่านมา ได้แก่
1. SM Entertainment เป็นที่ตั้งของ TVXQ, Super Junior, Girls’ Generation, SHINee, EXO, Red Velvet, NCT และ aespa
2. JYP Entertainment บ้านของ 2PM, TWICE, Stray Kids และ ITZY
3. YG Entertainment บ้านของ Big Bang, BLACKPINK, WINNER และ iKON
4. Big Hit Entertainment หรือชื่อใหม่คือ HYBE Entertainment ต้นสังกัดของ BTS และ TXT
อย่างที่คุณทราบมีเพียง 3 ค่ายชั้นนำเท่านั้นที่แข่งขันกันจนกระทั่ง BTS สร้างกระแสระดับโลกที่นำไปสู่การผงาดของ Big Hit ทำให้มหาอำนาจเกาหลีจาก Big 3 ไปสู่ Big 4
มาพูดถึงสถานการณ์รายได้ปี 2020 ที่ผ่านมาจากรายงานของเกาหลี จุงอัง อิลโบ กันดีกว่า
– ความสำเร็จระดับโลกของ Big Hit Entertainment BTS นำมาซึ่งผลกำไรมหาศาล ยอดขายเพิ่มขึ้น 35% จากปี 2562 เป็น 796.28 พันล้านวอน (ประมาณ 22 พันล้านบาท) ในขณะที่กำไรเพิ่มขึ้น 47% เป็น 145.51 พันล้านวอน (ประมาณ 4 พันล้านบาท)
เรียกว่า โควิด-19. แทบไม่มีผลกระทบต่อรายได้ของค่ายนี้เลย เพราะถึงแม้จะเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดคอนเสิร์ตจริงๆ แต่ก็ยังมีโปรแกรมออนไลน์รองรับและจำนวนผู้ชมก็สร้างสถิติโลกอีกด้วย
– ยอดขายรวมของ YG Entertainment ซึ่งรายได้หลักมาจากเกิร์ลกรุ๊ป BLACKPINK เพิ่มขึ้นเป็น 255.26 พันล้านวอน (ประมาณ 7 พันล้านบาท) ในปีที่แล้ว ในขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นจาก 5.35 พันล้านวอนเป็น 10.74 พันล้านวอน (ประมาณ 300 ล้านบาท) .
– JYP Entertainment สัญญาของ GOT7 เพิ่งหมดลงในเดือนมกราคมปีนี้ ยอดขายลดลงจากปี 2562 จาก 155.43 พันล้านวอน เหลือ 144.39 พันล้านวอน หรือประมาณ 4 พันล้านบาท ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 43.45 พันล้านวอน เป็น 44.13 พันล้านวอน หรือมากกว่า 1.2 พันล้านบาท
โดยสรุป รายได้ของ YG และ JYP ลดลงเนื่องจากไม่สามารถจัดคอนเสิร์ตได้ แต่ประสิทธิภาพการขายสามารถช่วยได้
– SM Entertainment รายงานว่ารายได้และกำไรลดลงทั้งรายรับลดลง 11.8% เหลือ 579.87 พันล้านวอน (ประมาณ 16 พันล้านบาท) จาก 657.82 พันล้านวอนในปี 2562 และกำไรลดลง 83.9% เหลือ 6.49 พันล้านวอน (ประมาณ 1.8 พันล้านบาท) จาก 40.39 พันล้านวอน (พันล้านบาท) ในปี 2563
ทางค่ายชี้แจงว่าเกิดจากการที่ไม่สามารถจัดคอนเสิร์ตในต่างประเทศได้เป็นประจำ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักอีกแหล่งหนึ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19