แคนนอนเจี้ยน นี่คงเป็นเมนูโปรดของใครหลายๆคนใช่ไหม? สำหรับผมต้องบอกว่าผมสนุกกับมันมาก ก. ไก่ล้านตัว. ฉันชอบกินขนมจีนมากจนกินได้ทุกวันไม่เบื่อเลย ปกติผมไม่เคยใส่ข้าวเลยเวลากินแต่ทุกครั้งที่กินขนมจีนจะใส่ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งครับ 555 ส่วนสาเหตุที่เราชอบกินขนมจีนก็เพราะว่าเราชอบกินบะหมี่นั่นเอง การกินขนมจีนทำให้เราได้กินผักมากขึ้น และยังมีผักแปลกๆ ที่เราลองรับประทานเป็นประจำอีกด้วย
นอกจากกินเส้นสดแล้วที่บ้านเรายังมีบะหมี่แห้งด้วยบอกตรงๆว่าทานคู่กับส้มตำก็สะดวกและอร่อยมาก การทำยำขนมจีนเป็นเรื่องง่าย หรือเมื่อคุณอยากกินขนมจีนแต่ขี้เกียจออกไปข้างนอก ก็แค่ทำบะหมี่ง่ายๆ เนื่องจากเราจะพูดถึงขนมจีนในโพสต์นี้เราจึงได้รวบรวมวิธีทำมาฝาก ทำบะหมี่ขนมจีนให้คุณ ใครที่ชอบกินขนมจีนเหมือนเราห้ามพลาดเพราะเรารวบรวมมาไว้ในบทความเดียว เหนือ ใต้ ตะวันตก ตะวันตก
ขนมจีนสูตรน้ำ
1.พริกแกงใต้
ให้ฉันเริ่มด้วยซุปที่ฉันชอบคือแกงเผ็ดใต้ คนที่ชอบเผ็ดจะชอบสูตรนี้ น้ำซุปมีส่วนผสมของเนื้อปลาและพริกแกงบดให้เข้ากันจนเนียน เข้มข้นด้วยซอสแกงกะหรี่และใบมะนาวเล็กน้อย วิธีรับประทานทำได้ 2 วิธี คือ ผัดแกงจนเนื้อปลากระจายตัวเท่าๆ กัน แล้วจึงตักใส่ลงไป อีกวิธีหนึ่งที่เราชอบกินคือรอให้ปลาตัวตัวแล้วตักน้ำราดลงบนขนมจีนถึงแม้จะดูใสแต่รสชาติเผ็ดมาก
ส่วนผสมน้ำพริกแกงใต้
- ปลาแมคเคอเรล
- ใบมะนาว
- พริกแกงแดงขูดละเอียด
- พริกไทย
- น้ำปลา
- น้ำตาล
- กะปิ
- น้ำ
วิธีทำน้ำพริกแกงใต้
- ขั้นตอนที่ 1 : ต้มหรือนึ่งปลาก่อน สำหรับปลาเราสามารถใช้ชนิดใดก็ได้ แต่เราแนะนำปลาเนื้ออ่อนมากกว่าปลาแข็ง ปลาปรุงสุกดีแล้วลอกหนังออกและเตรียมเฉพาะเนื้อสัตว์เท่านั้น ลอกผิวหนังออกและเอากระดูกออก
- ขั้นตอนที่ 2: โขลกเนื้อปลาจนฟูพอแล้วจึงโขลกพริกแกงและกะปิให้เข้ากันจนเนื้อเนียนละเอียด ใส่หม้อ เติมน้ำ ตั้งไฟปานกลางจนเดือด ฉีกใบมะนาวและพริกไทยออกเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลเล็กน้อย รอจนเดือดอีกครั้งจึงปิดไฟและเสิร์ฟ
2.น้ำยากะทิปักษ์ใต้
กะทิเป็นน้ำจิ้มขนมจีนชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จริงๆ แล้ววิธีการทำน้ำจิ้มกะทิกับพริกแกงก็คล้ายกันมาก ข้อแตกต่างคือน้ำจิ้มกะทิจะมีรสอ่อนกว่าและเผ็ดเพราะมีความมัน . กะทิจะทำลายรสชาติ แกงกะหรี่จะข้นมากและไม่มีตะกอนที่ก้นหม้อ ในส่วนของรสชาตินั้นควรจะเผ็ดก่อน จากนั้นค่อย เค็ม และหวานเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้แกงมีความกลมกล่อมมากขึ้นและไม่มีรสชาติจัดจ้านหรือจัดจ้านจนเกินไป
ส่วนผสมน้ำยากะทิ
- เนื้อปลา
- ใบมะนาว
- ตะไคร้
- น้ำพริกแกง
- ขนมมะพร้าว
- น้ำปลา
- กะปิ
- กะทิ
วิธีทำกะทิเหลว
- ขั้นตอนที่ 1 : ปรุงปลาจนสุก จากนั้นเอาเนื้อออกแล้วคลุกกับเครื่องพริกแกงและกะปิจนเนียนแล้วพักไว้ นำกะทิไปต้มแล้วละลายเครื่องแกงที่บดไว้ก่อนหน้านี้แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นใส่ตะไคร้และมะนาว
- ขั้นตอนที่ 2: แกงปรุงสุกดีแล้วเราก็เติมกะทิลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลเล็กน้อย ปรุงต่อจนแกงเดือดและได้ความเข้มข้นตามที่คุณต้องการ สามารถรื้อลงบูชาได้
3.น้ำยาป่าตีนไก่
มีขนมจีนแต่ไม่มีน้ำป่าก็ยังไหวใช่ไหม? โดยเฉพาะตีนไก่น้ำภาอร่อยมาก แกงปลาเข้มข้น ผักก็นุ่มหวาน ส่วนตีนไก่ก็สุกนุ่มจนไม่ต้องเคี้ยวแรงๆ เมนูนี้แนะนำให้ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสเผ็ด เค็ม ซึ่งจะทำให้อร่อย ยิ่งใส่ปลาร้ายิ่งมีกลิ่นหอมและรสชาติดีขึ้น เพื่อนๆที่สนใจสามารถติดตามและคลิกสูตรอาหารได้ในบทความครับ เมนูตีนไก่: มันเทศป่า
4. แกงไตปลา
นอกจากกินกับข้าวแล้วคนใต้ยังชอบกินแกงไตปลาและขนมจีนอีกด้วย ใครที่ยังไม่ได้ลองสิ่งนี้ควรทำโดยเร็วที่สุด น้ำพริกแกงไตปลาจะเข้มข้นและเข้มข้น เผ็ด เค็ม เข้มข้น มีกลิ่นหอมของไตปลา ทานคู่กับเส้นหมี่นุ่มๆ กับผักสด เมนูนี้เข้ากันดี เมนูนี้ต้องทานคู่กับผักที่ปรุงด้วยกะทิซึ่งสามารถลดความเผ็ดของแกงไตปลาได้เป็นอย่างดี
ส่วนผสมสำหรับแกงไตปลา
- ปลาซาบาห์
- ตะไคร้
- ใบมะนาว
- การยิง
- ฟักทอง
- มะเขือ
- น้ำพริกแกง
- กะปิ
- ไตปลา
- น้ำตาล
- น้ำ
วิธีทำแกงไตปลา
- ขั้นตอนที่ 1 : มาเตรียมส่วนผสมกันก่อนเลย ขั้นแรก หั่นฟักทองและหน่อไม้ แล้วเลือกมะเขือยาวแช่ในน้ำเกลือเพื่อเตรียม จากนั้นเอาเฉพาะเนื้อปลาออกแล้วฉีกเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ จากนั้นปรุงไตปลาด้วยตะไคร้และใบมะนาวจนเดือด วิธีนี้สามารถลดกลิ่นคาวของไตปลาได้ กรองและเก็บเฉพาะน้ำไตปลาเท่านั้น
- ขั้นตอนที่ 2: นำน้ำไตปลาไปตั้งไฟปานกลาง เติมน้ำตามปริมาณที่ต้องการ ตามด้วยพริกแกงและกะปิ ต้มต่อและปรุงผักเนื้อแข็ง เช่น ฟักทองและหน่อไม้จนสุก ตามมาด้วยมะเขือยาวและปลาซาบะ ใส่ใบมะนาวอีกเล็กน้อยเพื่อขจัดกลิ่นคาว เพิ่มน้ำตาลเล็กน้อยเพื่อลิ้มรส เมื่อทุกอย่างสุกแล้ว ให้ปิดเตาอบและเสิร์ฟ
5. แกงเขียวหวาน
กับข้าวอีกอย่างที่ทานคู่กับขนมจีนคือแกงเขียวหวาน เมนูนี้คงถูกใจใครหลายๆคน แกงเขียวหวาน ไก่ชิ้นใหญ่และเลือด จับคู่กับมะเขือยาวและใบโหระพาหอมๆ แค่คิดก็อยากกินแล้วใช่ไหมล่ะ? โดยเฉพาะถ้าปรุงให้มีรสเค็มหวานบอกเลยว่าต้องเติมแน่นอน ใครอยากทำเมนูนี้สามารถเขียนสูตรในบทความได้เลย เมนูแกงกะทิ: แกงเขียวหวาน คุณสามารถแทนที่เนื้อวัวด้วยไก่ได้
6. ของเหลวถั่วลิสง
แกงถั่วหรือแกงหวานก็เป็นเมนูที่เด็กและผู้ใหญ่ทานได้เช่นกัน แม้ว่าจะเป็นแกง แต่ก็มีรสชาติหวานและมีเนื้อกรุบกรอบเนื่องจากมีถั่วลิสงและกะทิ ความเปรี้ยวเล็กน้อยทำให้รู้สึกสดชื่น ในส่วนของความเผ็ดนั้นแทบไม่มีความเผ็ดเลย แม้ว่าสีของซอสแกงจะดูเข้มข้นก็ตาม ผู้ที่ชื่นชอบบะหมี่จีนแต่ไม่ชอบเผ็ดควรลองสูตรแกงนี้อย่างแน่นอน
วัตถุดิบของเหลวถั่วลิสง
- ถั่วลิสงอบ
- หัวหอมเขียว
- พริกแห้งเม็ดใหญ่
- ส้มแขก
- น้ำตาลทราย
- เกลือ
- น้ำมะขาม
- กะทิ
- น้ำมันพืช
วิธีทำนมถั่วเหลือง
- ขั้นตอนที่ 1 : หั่นหัวหอมสีเขียวก่อน จากนั้นนำพริกแห้งไปผัดจนมีกลิ่นหอมแล้วบดให้ละเอียด ส่วนหัวหอมเราทอดจนเป็นสีเหลืองทอง เทน้ำมันเล็กน้อยใส่กะทิและหัวหอมผัดให้เข้ากันจนน้ำมันแตกตัว ปรุงรสด้วยน้ำตาลและส้มจี๊ด จากนั้นใส่กะทิลงไปผัดจนเข้ากัน
- ขั้นตอนที่ 2: ระหว่างรอให้แกงเดือด ให้บดถั่วลิสงให้หยาบมากและแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นเทลงในหม้อแกงตามด้วยพริกบด ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำมะขามเล็กน้อย ปรุงต่อจนแกงข้นตามชอบ จากนั้นปิดไฟพร้อมเสิร์ฟ
7.แกงปูใบชะพลู
แกงปูใบชะพลูเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน จุดเด่นของจานนี้คือแกงที่หอมกรุ่นและเนื้อปูหวานชิ้นโตพร้อมกลิ่นหอมของใบชาที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ยิ่งได้ปูม้าสดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งพอใจเท่านั้น นอกจากจะอร่อยแล้ว สูตรนี้ยังทำง่ายด้วยเพราะวิธีการเตรียมจะคล้ายกับกะทิ สามารถดูวิธีทำสูตรนี้ได้ในบทความ เมนูแกงกะทิ: แกงปูใบชะพลู
8.แกงไตปลากระป๋อง
อยากผักป่าแต่หาปลาสดไม่ได้ใช่ไหม? แนะนำสูตรนี้ค่ะ แกงปลากระป๋องเป็นเมนูที่ทำง่ายมากและสามารถรับประทานได้ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที เครื่องแกงมีความคงตัวของน้ำจิ้มเนื้อและน้ำปลากระป๋อง เราจะปรุงจนมีกลิ่นหอมด้วยข่าและผักเพื่อไม่ให้รสชาติปลากระป๋องโดดเด่นมากนัก ในส่วนของรสชาติส่วนใหญ่จะปรุงให้เผ็ดและเค็มเป็นหลัก
ส่วนผสมแกงปลากระป๋อง
- ปลากระป๋อง
- ลูกชิ้น
- หัวหอม
- ผักชีฝรั่ง
- กระชาย
- น้ำพริกแกงแดง
- น้ำตาล
- น้ำปลา
- น้ำปลาร้า
- น้ำ
วิธีทำแกงไตปลากระป๋อง
ขั้นตอนที่ 1: ก่อนอื่นเราแยกเฉพาะเนื้อปลากระป๋องเท่านั้น จากนั้นจึงบดเนื้อปลากับพริกแกงและข่าให้เข้ากัน ใส่น้ำ น้ำปลากระป๋อง และน้ำปลาร้า ลงในหม้อ ตั้งไฟให้เดือด ใส่ลูกชิ้นปลา จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลเล็กน้อย ในที่สุดสับหัวหอมสีเขียวและผักชีฝรั่ง กดจนจม แล้วปิดเตาอบพร้อมเสิร์ฟ
9. รัฐเซาท์ออสเตรเลีย
ปิดท้ายด้วยแกงขนมจีนสไตล์ภาคเหนืออย่างน้ำเงี้ยว คนเหนือไม่กินเมนูนี้ถือว่าพลาดมาก สิ่งที่ทำให้น้ำเงี้ยวแตกต่างจากสูตรแกงอื่นๆ คือ น้ำพริกมีความเข้มข้น หมูมีลักษณะเป็นชิ้นหนาและมีรสเผ็ด เปรี้ยว และหวาน ชาวเหนือมักรับประทานคู่กับมัสตาร์ดดองและถั่วงอก เพื่อนๆที่อยากลองสามารถจดสูตรไว้ในบทความได้เลย สูตรอาหารเหนือ: ขนมจีนน้ำเงี้ยว
ทั้งหมดนี้คือ 9 สูตรขนมจีนน้ำยาที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้ คุณโอเคไหม? มีสูตรน้ำพริกแกงที่เพื่อนๆชอบมั้ย? เอาจริงๆ ขนมจีนเป็นเมนูที่มีหลากหลายและแกงให้เลือกหลากหลาย เบื่อมั้ยกับการทานขนมจีนแบบเดิมๆ? คุณสามารถลองเลือกเมนูที่แนะนำในบทความนี้เพื่อลองดูก็ได้ อร่อยแน่นอนและเป็นเมนูโปรดใหม่ของเพื่อนคุณแน่นอน